• Rocket Sound I Call Center 0-2792-9999 I Line ID : rocketsound I Facebook : RocketSoundThailand I Instagram : Rocketsound_Thailand
 

ipod 4G

  • วันที่: 25/07/2011 16:44
  • จำนวนคนเข้าชม: 9754

เชื่อว่าเป็น iPod ที่หลายคนกำลังเล็งอยู่ว่าจะเวิร์คมากน้อยแค่ไหน ไม่ว่าจะเป็นความเร็วความแรง หรือ FaceTime ที่จะช่วยให้ลดค่าโทรศัพท์ได้จริงหรือไม่ รีวิวนี้มีคำตอบสำหรับทุกคำถามแล้ว

 

 

รูปร่างหน้าตา

iPod touch 4G ว่าไปด้านสรีระถือว่าเปลี่ยนไปจากเดิมไม่มากนัก โดยถ้าดูด้านหน้าก็จะมีกล้องถ่ายรูปที่อยู่เหนือหน้าจอเป็นจุดเล็ก ๆ ด้านบนมีปุ่ม Power/Sleep อยู่ทางด้านขวา ด้านซ้ายของตัวเครื่องมีปุ่มปรับระดับเสียงอยู่หลบเข้าไปด้านในเล็กน้อย ส่วนด้านหลังมีกล้องถ่ายรูปอยู่ด้านมุมบนซ้ายใกล้ ๆ กันมีไมโครโฟนอยู่ด้วยถือว่าเป็นจุดรับเสียงเพียงหนึ่งเดียวบนตัวเครื่อง โดยในส่วนของพลาสติกดำ ๆ ที่เคยมีมาทุกรุ่น ซึ่งแอปเปิ้ลบอกว่าจะช่วยทำให้การรับสัญญาณ Wi-Fi ดีขึ้นนั้น พอมารุ่นนี้พลาสติกดำ ๆ ที่ว่าไม่มีแล้ว ทำให้ด้านหลังเครื่องแลดูสวยขึ้นเล็กน้อย สำหรับด้านท้ายเครื่องไล่จากซ้ายไปขวามีช่องลำโพง, ช่อง Dock Connector และช่องเสียบหูฟัง 3.5 ม.ม.โดยทุกช่องตำแหน่งจะอยู่เยื้องเข้าไปด้านหลังเล็กน้อย

 

ด้านความบางของตัวครื่องถือว่าบางมาก ๆ ซึ่งพอนำมาเทียบกับรุ่นที่แล้วที่ว่าบางแล้ว iPod touch 4G ก็บางลงไปอีกกว่าเดิมอีกเล็กน้อยจนคิดว่ารุ่นต่อไปจะบางลงได้กว่านี้อีกรึเปล่า ส่วนน้ำหนักถ้าดูจากสเป็คเทียบกับรุ่นเดิมอาจจะรู้สึกไม่ค่อยต่างกันเท่าไหร่ ระหว่าง 101 กรัม ของรุ่นนี้ กับ 115 กรัมของรุ่นที่แล้ว

โดยรวมสำหรับตัวเครื่องเรื่องหน้าตาไม่พัฒนาเท่าไหร่ เพราะหน้าตาก็ยังคงคล้าย ๆ เดิม แต่รุ่นนี้ได้ทำการนำพลาสติกสีดำที่ด้านหลังเครื่องออกไปทำให้ตัวเครื่องแลดูหล่อขึ้นมาทันทีเล็กน้อยถึงปานกลาง

ด้านการใชังาน (ในส่วนนี้จะขอเน้นฟีเจอร์ที่เพิ่มเข้ามาใหม่)

เร่ิมกันที่หน้าจอของ iPod touch 4G ที่เป็นแบบเดียวกับ iPhone 4 คือ Retina Display ความละเอียดหน้าจอ 960×640 พิกเซลซึ่งเป็นความละเอียด 2 เท่าจากหน้าจอรุ่นก่อน ๆ ทำให้การแสดงผลระดับพิกเซลบน iPod touch 4 มีความละเอียดมากขึ้นกว่าเดิม 4 เท่า ซึ่งจะเห็นได้ว่าจอคมชัดขึ้นมาก ๆ ชนิดที่ว่ามอง iPod touch 4G นาน ๆ แล้วไปมอง iPod touch รุ่นเก่าสามารถรู้สึกได้่เลยว่าทำไมจอรุ่นเก่าที่เคยชัดตอนนี้เร่ิมจะเบลอ ๆ ไม่ชัดเสียแล้ว เท่าที่สังเกตได้อีกอย่างสีดำของหน้าจอจะดำสนิทมากขึ้น โดยเมื่อนำทั้งสองเครื่องมาวางเทียบกับจะเห็นได้ว่า iPod touch 4G หน้าจอจะดำสนิทกว่าแบบเห็นได้ชัด

 


 

 

และแม้ชิ้นส่วนหน้าจอของ iPod touch 4G จะไม่ใช่ชนิด IPS เหมือนที่อยู่ใน iPhone 4 ซึ่งใครต่อใครก็บอกว่าสีสันบนหน้าจอของ iPod touch 4G สู้บน iPhone 4 ไม่ได้จากที่เห็นและได้ใช้เองสีบนหน้าจอของ iPod touch 4G  จะติดอมเหลืองมากกว่าที่ผ่าน ๆ มาเล็กน้อย โดยเมื่อนำหน้าจอมาเทียบกันระหว่าง iPod touch 2G กับ iPod touch 4G จะเห็นได้ว่าสีบนหน้าจอของ iPod touch 4G จะติดอมเหลืองแบบเห็นได้ชัด ส่วนการแสดงผลที่บอกว่าสีเพี้ยนนั้น เอาจริง ๆ ก็คือการจับผิดชนิดที่ต้องเอียงหน้าจอในมุมกว้าง 150 ไปจนถึง 170 องศาถึงจะเห็นว่าหน้าจอสีไม่เท่ากันเช่นมองเสยจากล่างขึ้นบนหน้าจอเหมือนจะติดอมฟ้า พอมองจากด้านขวาหน้าจอเหมือนจะติดอมเหลือง ซึ่งในความเป็นจริงการใช้งานปกติเราคงไม่ได้เอียงเครื่องขนาดนั้นเพราะโดยปกติการใช้งานเราก็จะตั้งหน้าจอให้ขนานกับสายตาของเราอยู่แล้ว อานิสงค์ของหน้าจอคมกริบทำให้เวลาดูวิดีโอต่าง ๆ ที่เราใส่ลงไปภาพจะดูสวยขึ้นตามไปด้วย โดยในส่วนของวิดีโอ iPod touch 4G รองรับไฟล์วิดีโอได้ถึงขนาด 720p อีกด้วย

ด้านความแรง


สำหรับ iPod touch 4G ใช้ซีพียู A4 ความเร็ว 1GHz ตระกูลเดียวกับที่อยู่ใน iPad และ iPhone 4 ซึ่งการใช้งานไม่ต้องนำมาเทียบกับรุ่นเก่าก็รู้สึกได้ว่าเร็วและแรงกว่าเดิมเยอะ ไม่ว่าจะเป็นการกดหรือจ้ิมใช้งานอะไรก็เร็วชนิดตามใจสั่ง โดยในการทดสอบผมลองเปิดหน้าเว็บ pantip.com ห้อง MBK เทียบกันระหว่าง iPod touch 2G กับ iPod touch 4G จาก Wi-Fi เดียวกัน พบว่า iPod touch 4G โหลดหน้าเว็บเสร็จเรียบร้อยจนหน้าจอดับไปเองแล้วสักพักใหญ่ ๆ iPod touch 2G ถึงจะโหลดหน้าเว็บเสร็จ

สำหรับการเปิดเล่นเกมหรือแแอพฯต่าง ๆ ด้วย iPod touch 4G สามารถเข้าแอพฯได้เร็วขึ้นมาก โดยหลาย ๆ เกมที่จะเสียเวลาในช่วงก่อนเข้าเกม เช่น ขึ้น Loading… พอเป็น iPod touch 4G ก็จะใช้เวลาสั้นลงอย่างเห็นได้ชัด

ถ่ายรูปนิ่งและวิดีโอ

 



สำหรับกล้องถ่ายรูปที่อยู่ใน iPod touch 4G มีทั้งด้านหลักที่เป็นกล้องหลักและกล้องด้านหน้าที่เป็นกล้องที่ 2 โดยความละเอียดของกล้องด้านหลังจะอยู่ที่ 7 แสนพิกเซล ส่วนกล้องหน้าอยู่ที่ 3 แสนพิกเซล เชื่อว่าส่วนนี้หลายคนผิดหวังบ้างพอควรเพราะแอปเปิ้ลก็กั๊กไว้ สำหรับกล้องใน iPod touch 4G ไม่มีระบบออโต้โฟกัสแต่อย่างใด การที่เราแตะหน้าจอแล้วขึ้นกรอบสี่เหลี่ยมเล็ก ๆ เหมือนบน iPhone 3GS หรือ iPhone 4 ไม่ใช่การแตะหน้าจอเพื่อโฟกัสภาพ แต่เป็นแตะเพื่อปรับแสง โดยเท่าที่ลองใช้กล้องใน iPod touch 4G ในส่วนของ  White Balance ไม่เก่งเท่าใน iPhone 3GS คือถ้าบางครั้งที่เราจะถ่ายรูปตัวเครื่องจะมีการปรับแสงและ White Balance ให้อยู่บ้างแล้ว แต่พอเทียบกันกับ iPhone 3GS จะเห็นได้ชัดว่าเพี้ยน ๆ อยู่บ้างเหมือนกัน

สำหรับคุณภาพของภาพที่ได้จากกล้องของ iPod touch 4G ถ้าแสงแรง ๆ แดดจัด ๆ ก็พอรับได้สำหรับกล้องความละเอียด 7 แสนพิกเซล (แค่พอรับได้จริงๆ) แต่ถ้าเป็นการถ่ายภาพในร่มหรือกลางคืนอย่าหวังอะไรมากเพราะนอยซ์มาเต็มชนิดไม่เกรงใจเจ้าของเครื่องกันเลยทีเดียว สรุปว่าภาพนิ่งใน iPod touch 4G อย่าหวังอะไรมากแค่พอถ่ายได้ ว่าไปกล้องใน iPod touch 4G ก็เหมือนย้อนไปในยุคที่กล้องในโทรศัพท์มือถือเร่ิมมีความละเอียดกล้องราว ๆ 1 ล้านพิกเซลแบบที่ไม่มีออโต้โฟกัส

 


ในส่วนของการถ่ายวิดีโอที่สามารถถ่ายได้ถึงระดับ HD (720p) เท่าที่ได้ทดสอบจัดว่าอยู่ในระดับที่ดีน่าพอใจ โดยเราได้ทดสอบบันทึกวิดีโอในช่วงเย็น ๆ ราว 17.00 น. ภาพที่ได้ถือว่าทำได้ดีกว่าที่คิด ผิดกับการถ่ายภาพนิ่งที่ผลลัพธ์ไม่น่าพอใจสักเท่าไหร่ ข้อด้อยของการถ่ายวิดีโอเท่าที่ได้ทดสอบก็คงหนีไม่พ้นเรื่องการปรับแสงที่ยังทำได้ไม่เร็วเท่าไหร่ ทำให้ขณะถ่ายวิดีโอมีจังหวะที่แสงเพี้ยน ๆ ไปบ้างเล็กน้อย สำหรับการถ่ายวิดีโอตอนกลางคืนก็ได้ลองแล้วเช่นกัน โดยเราได้ลองถ่ายคลิปช่วงกลางคืนที่มีแสงไฟถนนยามค่ำคืนมาสั้น ๆ เท่าที่ดูรายละเอียดในภาพก็ยังถือว่าทำได้ดีพอประมาณแม้จะมีนอยซ์เยอะไปหน่อยก็ตาม

โดยรวมสำหรับการถ่ายรูปนิ่งและวิดีโอแบ่งครึ่งกันระหว่างดีในส่วนของการถ่ายวิดีัโอกับแย่ในส่วนของภาพนิ่งปน ๆ กันไป