• Rocket Sound I Call Center 0-2792-9999 I Line ID : rocketsound I Facebook : RocketSoundThailand I Instagram : Rocketsound_Thailand
 

ทำไมก่อนซื้อเครื่องเสียงควรได้ลองฟัง

  • วันที่: 21/06/2010 17:57
  • จำนวนคนเข้าชม: 11700

     เครื่องเสียงไม่ว่าจะเป็นบ้านหรือรถยนต์ นอกจากการเปิดฟังเพื่อความบันเทิงและความไพเราะ ในการจัดหาอุปกรณ์ การเลือกให้มีความเข้ากันได้ทางบุคลิกเสียง เป็นศาสตร์และศิลป์ที่มิอาจอ้างอิงจากคู่มือ หรือพิจารณาดูวัสดุที่ใช้ผลิตตัวเครื่อง แม้กระทั่งผลการลองฟัง ผลการทดสอบ ก็เป็นเพียงคำแนะนำเบื้องต้นสำหรับให้ทราบว่าแต่ละอุปกรณ์มีบุคลิกเสียงอย่างไร สุดท้ายการจับเข้าชุดกัน เพื่อให้ได้มาซึ่งชุดเครื่องเสียงที่ถูกใจ ต้องลองฟังก่อนเสียสตางค์นะครับ

     ยกตัวอย่างของนักเล่นเครื่องเสียงบ้าน บางท่านจะซื้อเครื่องเล่นซีดีหรือเพาเวอร์แอมป์สักเครื่อง ลงทุนลงแรงถึงขนาดยกลำโพงขนาดใหญ่ที่มีใช้อยู่ ไปฟังกันที่โชว์รูมเครื่องเสียงกันเลยทีเดียว บางท่านไม่ได้ฟังเพียงครั้งเดียว ถึงกับฝากลำโพงไว้กับทางร้าน เพื่อวันหลังมาฟังต่อให้รู้เนื้อรู้ความ เรียกว่าก่อนจ่ายสตางค์ซื้ออุปกรณ์สักเครื่อง อ่านบทความลองฟังทดสอบแล้ว ยังต้องมานั่งฟังให้มั่นใจ เพื่อเสียสตางค์โดยมิต้องเสียอารมณ์ไปด้วย แต่ท่านนักเล่นเครื่องเสียงรถยนต์อาจบอกว่า การลองฟังเครื่องเสียงในรถยนต์นั้นหาฟังยากกว่า ไม่ใช่ต่อไฟเสียงก็ดัง ต้องใส่ตู้ต่อสายกันวุ่นวาย ก็ขอแนะนำว่า เสียงสตางค์ทั้งที อย่าได้เกรงอกเกรงใจ ขอให้ได้ลองฟังเต็มที่ เพื่อให้เสียงสตางค์โดยมิต้องเสียอารมณ์เช่นกัน

     อีกประการสำคัญสำหรับการได้ลองฟังชุดเครื่องเสียงคือ เมื่อได้ชุดเครื่องเสียงที่ถูกใจ การปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ก็ไม่จำเป็น เรียกว่าเสียสตางค์ครั้งเดียวจบ เอาเวลาไปฟังบทเพลงที่ไพเราะดีกว่า ไม่ต้องออกร้านนั้นเข้าร้านนี้ ปรับเปลี่ยนอุปกรณ์ไปเรื่อยจนกว่าจะได้ชุดที่ถูกใจ เสียสตางค์หลายครั้งไม่จบสิ้น หนักกว่านั้นคือ เสียอารมณ์สุนทรีย์ไปพอสมควรทีเดียว

 

     ลองฟังกันอย่างไร

     การเตรียมตัวไปลองฟังก็ไม่ได้ยุ่งยาก ไม่ต้องถึงขนาดไปหาแผ่นออดิโอไฟล์หรือแผ่นที่ใช้ในงานแข่งขันที่เขาใช้ฟังทดสอบหรือแข่งขันเครื่องเสียงกันหรอกครับ เอาแผ่นเพลงที่ท่านผู้อ่านใช้ฟังประจำ หรือเป็นแผ่นที่มีแนวเพลงในแบบที่ท่านชื่นชอบ แต่มีข้อสำคัญคือ อย่าเพิ่งพกพาเอาสตางค์ไปด้วย เพราะการฟังครั้งแรกโดยมิได้ผ่านการไตร่ตรองทางความคิด อาจจะผิดพลาดจ่ายสตางค์ไปได้โดยง่าย

 

     ลองฟังในห้องลองต่างจากฟังในรถอย่างไร

     ส่วนใหญ่ก่อนการซื้อเครื่องเสียง ถ้ามีการลองฟัง ก็คงเป็นการลองฟังในห้องลองของทางร้าน น้อยที่จะได้ฟังกันในรถยนต์จริงๆหรือแทบจะเป็นไปไม่ได้เลยที่ได้ลองฟังกันในรถคันที่ท่านผู้อ่านนำไปติดตั้ง เพราะถ้าฟังกันหลายครั้ง หลายอุปกรณ์แล้วเกิดไม่ถูกใจ ทางร้านคงเสียเวลาน่าดู อันนี้ต้องพบกันครึ่งทาง ลองฟังในร้านภายในห้องลอง เพื่อให้ทราบคุณภาพบุคลิกเสียงเพื่อเป็นแนวทางในการตัดสินใจ เว้นแต่ว่าโชคดีไปเจอร้านใดใจดี ต่อให้ลองฟังในรถ หรือทางร้านมีรถที่ติดเครื่องเสียงชุดนั้นๆรอไว้อยู่แล้วนะครับ

     ลองฟังในห้องลอง หากเป็นการเลือกซื้อฟร้อนท์ฟังเพลง หรือจอภาพ จะไม่แตกต่างกันมากนัก เมื่อนำไปใช้งานจริงในรถ เพราะองค์ประกอบและสภาพอะคูสติกภายในรถไม่ส่งผลต่อบุคลิกเสียงของฟร้อนท์และจอภาพ จะเปลี่ยนไปก็ตามอุปกรณ์เสริมและการติดตั้งใช้งานเท่านั้น เรียกว่าลองฟังในห้องลองผลเป็นอย่างไร สามารถนำเอาข้อมูลมาช่วยในการตัดสินใจได้

     การเลือกเพาเวอร์แอมป์ ในส่วนของพละกำลังขับ ต้องได้ลองต่อกับลำโพงที่จะเลือกซื้อและได้ลองฟัง สภาพอะคูสติกภายในรถแต่ละคันไม่ส่งผลต่อความแตกต่างในการลองฟังภายในห้องลองเทียบกับฟังในรถ บุคลิกเสียงจะแตกต่างไปบ้างตามคุณภาพอุปกรณ์เสริมที่นำมาร่วมใช้งานและคุณภาพงานติดตั้ง เรียกว่าถ้าได้ฟังเพาเวอร์แอมป์ขับลำโพงได้ไม่เป็นปัญหาอะไร การนำมาใช้งานในรถก็ไม่เกิดความเปลี่ยนแปลงในด้านพละกำลังขับมากนัก สามารถนำเอาข้อมูลมาช่วยในการตัดสินใจได้

     ในส่วนของบุคลิกเสียงของเพาเวอร์แอมป์ การฟังในห้องลองและฟังในรถจริงแตกต่างกันบ้าง แต่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอะคูสติกภายในรถอีกเช่นกัน แต่เกี่ยวกับกำลังไฟในรถแต่ละกัน รวมไปถึงคุณภาพอุปกรณ์เสริมและคุณภาพการติดตั้ง เพราะเมื่อใช้อุปกรณ์เสริมคุณภาพดีประกอบกับงานติดตั้งที่มีคุณภาพดี ก็จะส่งผลต่อบุคลิกเสียง บางครั้งรวมไปถึงพลังขับที่ดีขึ้นมาก เรียกว่าบุคลิกน้ำเสียงคล้ายที่ได้ยินในห้องลอง แต่จะดีขึ้นมากน้อยขึ้นอยู่กับองค์ประกอบที่ได้กล่าวไป

     มาถึงอุปกรณ์ที่มีบุคลิกเสียงเปลี่ยนแปลงง่ายที่สุด โดยการเปลี่ยนแปลงนี้เป็นการเปลี่ยนในรายละเอียดเล็กน้อยๆ ไม่ถึงกับต้องจ้องจับผิด แต่ก็รับรู้ได้ในทันทีที่ฟัง ตามสภาพอะคูสติกภายในรถแต่ละคันที่ลองฟัง ฉะนั้นการลองฟังในห้องลอง จึงเป็นเพียงแนวทางเพื่อให้ทราบบุคลิกเสียงคร่าวๆในเบื้องต้น จะให้เหมาะสมที่สุด ควรได้ลองฟังในรถของท่าน แต่ถึงกระนั้น การติดตั้งจริงๆก็ส่งผลต่อบุคลิกเสียงเช่นกัน

 

ลำโพงกับความแตกต่างของอะคูสติก

     ปัจจัยที่ทำให้การลองฟังลำโพงในห้องลองแตกต่างจากในรถสำคัญที่สุดคือตำแหน่งการติดตั้ง เนื่องจากลำโพงในห้องลองส่วนใหญ่ติดตั้งดอกเสียงแหลมและดอกเสียงทุ้มไว้ใกล้กัน หันทิศทางเหมือนกัน ไม่มีปัญหาการหาตำแหน่งติดตั้งให้ได้ความเหมาะสม แถมในห้องลองไม่เจอปัญหาการก้องสะท้อนกับกระจก แต่ภายในรถนั้นเราไม่สามารถเลือกติดตั้งใช้งานได้อย่างภายในห้องลอง ด้วยข้อจำกัดในเรื่องตำแหน่งติดตั้งและสภาพอะคูสติก ร้ายกว่านั้นคือมีการก้องสะท้อนกับกระจกเป็นส่วนใหญ่ จึงทำให้รายละเอียดเล็กน้อยๆของบุคลิกเสียงเปลี่ยนไปเมื่อมาติดตั้งในรถ

     ตำแหน่งติดตั้งดอกลำโพง ส่งผลต่อบุคลิกเสียงที่เปลี่ยนไป หากดอกเสียงแหลมติดตั้งทิศทางยิงเสียงเข้าหากระจก เสียงจะกว้าง ติดไปทางกลางสูงที่ก้องสักหน่อย ฟังดูเหมือนเสียงกว้างกระจายอยู่หน้ารถดี แต่การติดตั้งดอกเสียงแหลมที่หลีกหนีการสะท้อนกับกระจก ยิงเสียงมาสู่หูผู้ฟังโดยตรง มีส่วนช่วยลดการก้องสะท้อน เสียงกลางไม่บีบบาง แต่กับลำโพงบางยี่ห้ออาจไม่เหมาะสม เพราะเสียงที่ได้ยินจะจัดการเกินไป การติดตั้งดอกลำโพงเสียงทุ้มก็เช่นกัน หากติดตั้งไม่แข็งแรง ลำโพงมีการสั่นไหว เสียงทุ้มก็จะหดหายไป ความเปิดโปร่งกระจายเสียงไปได้ไกลก็หายไปเช่นกัน ฉะนั้นนอกจากการฟังในห้องลองแล้ว ลำโพงเป็นอุปกรณ์สำคัญที่ต้องใส่ใจในคุณภาพและตำแหน่งติดตั้งให้มาก เพราะคุณภาพบุคลิกเสียงที่เป็นรายละเอียดเล็กๆน้อยๆที่ส่งผลต่อความไพเราะอย่างมหาศาล จะเปลี่ยนไปไม่เหมือนที่ฟังในห้องลองนะครับ     

     แม้ครั้งนี้จะเป็นครั้งที่สองที่ผมนำความสำคัญเกี่ยวกับการได้ลองฟังเครื่องเสียงมาเสนอ ก็เพียงเพื่อให้ท่านผู้อ่านได้ชุดเครื่องเสียงที่ถูกใจ ตัดสินใจไม่ผิดพลาด เนื่องจากฟังด้วยหูตนเอง ตัดสินใจในเสียงที่ชอบ จะได้ไม่ต้องเสียงสตางค์เปลี่ยนชุดเครื่องเสียงบ่อยครั้ง ได้อารมณ์สุนทรีย์ไปกับการฟังเพลงที่ไพเราะจากชุดเครื่องเสียงที่ท่านได้เลือก เว้นแต่ว่าลองฟังด้วยตนเองก็แล้วเลือกด้วยตนเองก็แล้ว ต่อมามีอุปกรณ์เครื่องเสียงออกรุ่นใหม่ๆ ให้คุณภาพบุคลิกเสียงที่ถูกต้องโดนใจมากกว่าเดิม แถมไปลองฟังมาแล้วเกิดกิเลสขึ้นทางใจ ยอมละทิ้งความเพียงพอ แถมสตางค์ในกระเป๋ายังพอเพียงที่จะตอบสนอง อันนี้ก็สุดแท้แต่อัธยาศัยในแต่ละท่านนะขอรับกระผม...