7 ลักษณะเสียงแย่ๆ ที่ทำให้คุณภาพเสียงโดยรวมไม่ดี
- วันที่: 03/05/2014 15:35
- จำนวนคนเข้าชม: 6355
ทุกคำถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพของระบบเสียงรถยนต์ มักจะมีคำถามเด่นอยู่คำถามหนึ่งปรากฏอยู่เสมอ นั่นคือ “ระบบที่ใช้แบรนด์-เอ กับแบรนด์-บี อันไหนเสียงดีกว่ากัน” ซึ่งในความเป็นจริง เราน่าจะได้รับรู้ก่อนว่า “เสียงที่ไม่ดีนั้นเป็นอย่างไร” เราจีงจะสามารถวิเคราะห์ได้ว่าระบบเสียงนั้นๆให้ประสิทธิภาพหรือคุณภาพเสียงได้ดีแค่ไหน และด้วย “7 ลักษณะเสียงแย่ๆ” ต่อไปนี้ จะทำให้เราประเมินได้ว่าระบบเสียงนั้นๆ ให้คุณภาพของเสียงได้ดีในระดับขั้นใด
ก่อนอื่นๆเลย ถ้าระบบเสียงนั้นๆไม่ปรากฏลักษณะเสียงแย่ๆทั้ง 7 ลักษณะ เราจะถือว่าระบบเสียงนั้นให้คุณภาพเสียงได้สุดยอด เลิศเลอ-เปอร์เฟ็ค ครบถ้วนสมบูรณ์ในองค์ประกอบเสียงไฮเอ็นด์ แต่ถ้าหากมีปรากฏออกมาซัก 1 ลักษณะ อย่างนี้ก็จะจัดอยู่ในจำพวก เสียงค่อนข้างดีเลิศ, ถ้าหากปรากฏออกมา 2 ลักษณะ ก็น่าจะจัดอยู่ในจำพวก เสียงค่อนข้างดีมาก, ถ้าหากปรากฏออกมา 3 ลักษณะ เช่นนี้ก็ควรอยู่ในจำพวก เสียงค่อนข้างดี, ถ้าปรากฏออกมา 4 ลักษณะ ก็ยังถือว่าอยู่ในจำพวก เสียงค่อนข้างใช้ได้, ถ้าหากปรากฏออกมา 5 ลักษณะ ก็อยู่ในจำพวก เสียงพอใช้, ส่วนถ้าหากปรากฏออกมา 6 ลักษณะ อย่างนี้ถือว่าอยู่ในจำพวก เสียงพอไปวัดไปวาได้ และถ้าหากปรากฏออกมาครบทั้ง 7 ลักษณะ จะปรามาสได้เลยว่าเป็น ระบบที่ให้คุณภาพเสียงได้ขี้เหร่ หรือภาษาลึกๆก็ “โชว์-ห่วย” เลยทีเดียว
เอาละ เราไปรู้จักกับ “ลักษณะเสียงแย่ๆ 7 ลักษณะ” ที่ว่านี้กัน
1.เริ่มที่ช่วงเสียง “เบสต่ำ” กันก่อน โดยทั่วไปจะเป็นช่วงเสียงจาก 20Hz ถึงประมาณ 200Hz ถ้าเป็นลักษณะของเสียงแย่ๆนั้น ก็คือ การให้เสียงออกมาในลักษณะ “อวบอ้วน เบสหนาเกินจริง อืดอาด ไม่กระฉับกระเฉง ไม่เป็นจังหวะ ฟังไม่สนุก แข็งเป็นกระดาน”
2.ต่อมาเสียงในช่วง “เบสต้น” ที่จะมีช่วงเสียงจากแถวๆ 200Hz ถึงประมาณ 400Hz ลักษณะของเสียงแย่ๆนั้น คือ การให้เสียงที่ “ไม่เป็นชิ้นเป็นอัน สัมผัสจับต้องไม่ได้ ปนเปกันมั่ว เละเป็นโจ๊ก เสียงเหมือนครกโขกน้ำพริก”
3.เสียงในช่วง “กลางต่ำ” ที่มีช่วงเสียงแถวๆ 400Hz ถึงราวๆ 600Hz ถ้าเป็นลักษณะของเสียงแย่ๆนั้น คือ การให้เสียงที่ “ก้องสะท้อนมั่วไปหมด เหมือนเสียงอยู่ในถ้ำ หลอนประสาทหู ฟังเหมือนอยู่ในภวังค์”
4.เสียงช่วง “กึ่งกลาง” ที่มีช่วงเสียงจากประมาณ 600Hz ถึงประมาณ 800Hz สำหรับลักษณะของเสียงแย่ๆ คือ การให้เสียงที่ “อื้ออึง สับสนวุ่นวาย ราวกับอยู่ในตลาดสดที่จอแจ รำคาญประสาทหู”
5.สำหรับเสียงช่วง “กลางสูง” ที่มีช่วงเสียงประมาณ 800Hz ถึงราวๆ 1200Hz ในส่วนของลักษณะเสียงแย่ๆ คือ การให้เสียงที่ “แข็งกระด้าง แบนเป็นไม้กระดาน หยาบสาก มากด้วยเสี้ยนเสียง เสียดแทงประสาทหู”
6.เสียงในช่วง “แหลมต้น” ที่มีช่วงเสียงราวๆ 1200Hz ถึงประมาณ 6000Hz ซึ่งลักษณะของเสียงแย่ๆ ก็คือ การให้เสียงที่ “ฟังแล้วหงุดหงิด น่ารำคาญ ทนฟังได้ไม่นาน ไร้ความสุนทรี ไม่มีความละเมียดละไม”
7.เสียงสุดท้ายในช่วง “แหลมปลาย” ที่มีช่วงเสียงแถวๆ 6000Hz ไปจนถึงราวๆ 12000Hz สำหรับลักษณะของเสียงแย่ๆ ก็คือ การให้เสียงที่ “ฟังออกเป็นเสียงซีดซาด เอ๋กเซ่นเยอะ ดังแซงแซด เสียงเปะปะ ไร้บรรยากาศ”
เอาละครับ ขอให้สนุกกับการนำนิยามเสียงทั้ง 7 ลักษณะนี้ ไปวิเคราะห์-วินิจฉัย ประสิทธิภาพหรือคุณภาพของเสียงในระบบกันนะครับ สามารถวิเคราะห์ได้เอง โดยไม่ต้องให้ปราชญ์ท่านใดช่วยชี้แนะเลยครับผม