เคบิ้นเกน ช่วยเพิ่มปริมาณเนื้อเสียงเบสในรถยนต์
- วันที่: 12/02/2014 12:54
- จำนวนคนเข้าชม: 8686
เมื่อเราลองคำนวณหาความยาวคลื่นกัน โดยใช้สูตรความเร็วของเสียง(หน่วยเป็นฟุตต่อวินาที)หารด้วยความถี่ ซึ่งความเร็วเสียงปกติจะอยู่ที่ประมาณ 1,127 ฟุต/วินาที ในตัวอย่างเราจะใช้ความถี่เป็น 40 Hz ก็จะได้ความยาวคลื่นที่ประมาณ 28 ฟุต
(speed of sound) / (frequency) = wavelength
(1,127 ft/sec) / (40 Hz) = 28.175 ft
ความยาวโดยเฉลี่ยของห้องโดยสารรถยนต์(รวมไปถึงห้องสัมภาระท้ายรถ) จะอยู่ที่ราวๆ 10 ฟุต ถึง 12 ฟุต จะเห็นได้ว่าความยาวคลื่นของความถี่ 40 Hz จะยาวกว่าห้องโดยสารรถยนต์ ซึ่งนั่นทำให้ความถี่ที่อยู่ต่ำกว่าช่วงความถี่ 70 – 90 Hz (หรือความถี่หลักที่ 80 Hz ซึ่งเป็นออคเตฟแรกของ 40 Hz) จะมีปริมาณมากกว่าความถี่ส่วนที่อยู่เหนือกว่า ความถี่ที่เพิ่มขึ้นอย่างลึกลับนี้ มีผลทำให้ปริมาณของเสียงเบสที่อยู่ต่ำกว่าความถี่นั้นๆเพิ่มมากขึ้นถึง 12 dB/Oct เหตุการณ์ประหลาดนี้เรามักเรียกกันว่า “เคบิ้นเกน”(cabin gain) หรือ “ปฎิกริยาการโอนถ่าย”(transfer function) นั่นก็หมายถึงรถยนต์ที่มีขนาดห้องโดยสารเล็กก็ยิ่งจะมีอัตรา “เคบิ้นเกน” สูงมากยิ่งขึ้น และสามารถเพิ่มการตอบสนองเสียงเบสย่านต่ำๆได้ดีกว่ารถยนต์ที่มีห้องโดยสารขนาดใหญ่ ในเงื่อนไขที่ว่าระบบซับวูฟเฟอร์เหมือนกัน และขับด้วยเพาเวอร์แอมป์ขนาดวัตต์เท่ากัน อย่างไรก็ดีสำหรับรถยนต์ที่มีห้องโดยสารขนาดใหญ่ ก็จะสามารถเลือกใช้ขนาดซับวูฟเฟอร์ได้ใหญ่กว่า รวมถึงขนาดกำลังขับของเพาเวอร์แอมป์ที่มากกว่า และยังมีโอกาสใช้อุปกรณ์ได้มากกว่ารถที่มีห้องโดยสารขนาดเล็กซึ่งมีพื้นที่จำกัด