เรียนทุกท่านที่ให้ความสนใจในหัวข้อ ถามมาตอบไป เพื่อให้การตอบคำถามมีความถูกต้อง และชัดเจน ขอความกรุณาให้รายละเอียดเกี่ยวกับ แบรนด์ และรุ่น ของรถยนต์ของท่าน งบประมาณ แนวเพลงที่ท่านชอบ หรือปัญหาของเครื่องเสียงของท่านโดยละเอียด ทางทีมงานฯ ขอขอบคุณทุกท่านไว้ ณ ที่นี้
ลำโพง 1 คู่ หรือ 2 คู่ดีครับ
- วันที่: 2007-06-10 14:38:45
- โดยคุณ: นาย
พอดีตอนนี้มีลำโพงยี่ห้อเดียวกัน รุ่นเดียวกันอยู่ 2 คู่ แต่ลองหาข้อมูลในเว็บเห็นเขาบอกกันว่า ถ้าจะฟังเพลงอย่างเดียว เดี๋ยวนี้นิยมติดลำโพงหน้ากันแค่คู่เดียว ถ้าติดลำโพงหลังด้วย เสียงอาจจะไม่ไปในแนวเดียวกัน แบบนี้ผมควรติดคู่เดียว หรือสองคู่หน้าหลังดีครับ เพราะตอนนี้มีอยู่แล้ว 2 คู่
สำหรับคำถามในประเด็นนี้ ต้องท้าวความกันเล็กน้อยครับ คือ
รูปแบบการฟังระบบเสียงรถยนต์ในปัจจุบัน แบ่งได้เป็น 3 ลักษณะหลักๆด้วยกัน อันได้แก่
1. ฟังแบบฟร้อนท์สเตจ คือเนื้อเสียงรวมทั้งหมดอยู่ด้านหน้ารถ เหมาะกับการฟังสบายๆ เน้นรายละเอียด และระดับความดังไม่สูงนัก โดยเฉลี่ยไม่เกิน 100 dB
2. ฟังแบบฟร้อนท์สเตจ-เรียร์ฟิลด์ คือเนื้อเสียงหลักอยู่เบื้องหน้าแต่มีเงาสะท้อนเสียงเป็นแบคกราวน์อยู่ด้านหลัง ฟังสบายๆและเน้นรายละเอียดได้เช่นเดียวกัน แต่ใช้ฟังในระดับความดังที่สูงกว่าฟร้อนท์สเตจ ทั่วไปได้ถึงประมาณ 100 - 110 dB
3. ฟังแบบล้อมรอบ มีหน้า-มีหลัง คือเนื้อเสียงจะโอบล้อมอยู่รอบๆตัวเรา สามารถฟังได้สบายๆเหมือนๆกัน แต่เริ่มไม่ใช่แนวเน้นายละเอียด จะไปเน้นเรื่องอิมแพ็ค หรือความกระชับ เร้าใจของเสียงแทน และมักจะเด่นในด้านการฟังในระดับที่ค่อนข้างดัง คือเฉลี่ยตั้งแต่ 110 dB ขึ้นไป ซึ่งอยู่เหนือขอบเขตของการจำแนกรายละเอียดเสียง เป็นการฟังเรื่องความสนุกสนานมากกว่า
คราวนี้ มันก็มาสัมพันธ์กันกับเรื่องของการติดตั้งลำโพงหน้า-หลัง ตรงที่ว่า
1. ถ้าชอบฟังแบบฟร้อนท์สเตจ ก็มักเน้นที่การติดตั้งแค่เฉพาะลำโพงกลาง-แหลมหน้า กับชุดซับวูฟเฟอร์
2. ถ้าชอบฟังแบบฟร้อนท์-เรียร์ฟิลด์ ก็จะติดตั้งทั้งลำโพงหน้า-หลัง แต่จะเน้นคุณภาพที่ลำโพงคู่หน้า ส่วนคู่หลังเอาแค่พอประมาณ(งบไม่สูง) เพราะเวลาปล่อยน้ำหนักเสียง จะปล่อยน้ำหนักเสียงไปที่ลำโพงด้านหน้าประมาณ 70 % และปล่อยน้ำหนักเสียงไปที่ลำโพงด้านหลังประมาณ 30% หรือพูดง่ายๆ คือเสียงคู่หลังจะมีออกมาแค่ 30% แต่คู่หน้าออกมาเต็ม 70% เพื่อให้เสียงรวมทั้งหมดยังอยู่เบื้องหน้า
3. ถ้าชอบฟังแบบล้อมรอบ ก็จะติดตั้งลำโพงทั้งหน้า-หลัง และควรมีคุณภาพระดับเดียวกัน เพราะการฟังแบบล้อมรอบนี้ น้ำหนักของเสียงทั้งลำโพงคุ่หน้าและคุ่หลังจะปล่อยออกมาเท่าๆกัน เพื่อสร้างอิมแพ็คของเสียงในระดับคอนเสิร์ท
ในกรณีที่ยังไม่แน่ใจว่าชอบฟังแบบไหนมากกว่ากัน ส่วนใหญ่ก็จะแนะนำให้เริ่มต้นที่แบบล้อมรอบ คือติดตั้งทั้งลำโพงคุ่หน้า-คู่หลัง ที่มีคุณภาพระดับเดียวกัน เพื่อที่ว่า หากต้องการฟังแบบฟร้อนท์-เรียร์ฟิลด์ ก็สามารถใช้ปุ่ม"เฟดเดอร์" ในการทอนน้ำหนักเสียงหน้า-หลังไปอยู่ที่สูตร 70% - 30% ได้ หรือถ้าจะชอบฟังแบบฟร้อนท์สเตจ ก็ใช้ปุ่ม"เฟดเดอร์"ถ่ายน้ำหนักเสียงทั้งหมดไปที่ลำโพงคู่หน้า(ดับเสียงลำโพงคู่หลัง) นั่นหมายถึงว่า ถ้าวางแนวการฟังแบบล้อมรอบไว้แต่ต้น จะสามารถเลือกฟังได้ทั้ง 3 รุปแบบ แต่ถ้าเริ่มต้นที่รูปแบบฟร้อนท์สเตจแล้ว จะไม่สามารถข้ามไปฟังแบบฟร้อนท์-เรียร์ฟิลด์ หรือแบบล้อมรอบได้เลยครับ
คงไม่ยาวเกินไปสำหรับคำอธิบายนะครับ เพราะอยากให้ได้ทำความเข้าใจตรงกัน ประเด็นของระบบเสียงรถยนต์นั้น มักไขว้เขวกันตรงความเข้าใจนี่ละ
ส่วนในอีกกรณีในแง่ของผู้ฟัง(จำนวนผู้ฟัง) กรณีของการฟังเพลงแนวฟร้อนท์สเตจ จะเน้นเวทีเสียงอยู่ด้านหน้า การติดตั้งลำโพงคู่หน้าอย่างเดียวก็เพียงพอ พร้อมกับซับวูฟเฟอร์ด้านหลัง ส่วนในกรณีมีคนนั่งหลังฟังด้วย ก็ควรติดลำโพงคุ่หลังด้วย เพื่อผู้ฟังตอนหลังจะได้รับฟังเสียงกลาง-แหลมพอๆกับผู้ฟังตอนหน้าด้วย ซึ่งก็จะได้รับความไพเราะเพิ่มขึ้นครับ
สำหรับกรณีของการใช้ลำโพงคู่หน้า-คู่หลังเป็นรุ่นเดียวกัน ก็มีส่วนช่วยในการปรับจูนเสียงให้กลมกลืนกันได้ราบรื่นมากขึ้น หรือจะปรับจูนคู่หน้าให้มีความดังมากกว่าคู่หลัง โดยให้คู่หลังเป็นส่วนที่เสริมอิมเมจก็ได้ครับ
ขอบคุณครับ
Rocket Sound