HI-END & AUDIOPHILE อะไรคือความแตกต่าง แล้วควรเล่นเครื่องเสียงแนวทางไหน
- วันที่: 19/06/2010 11:58
- จำนวนคนเข้าชม: 40035
กล่าวถึงกันมากในวงการนักเล่นเครื่องเสียง คำที่ได้ยินบ่อยที่สุดคือ เครื่องเสียงระดับ HI-END และการเล่นเครื่องเสียงแบบ AUDIOPHILE แต่ละแบบอย่างของการเล่น มีแนวทางปฏิบัติอย่างไร มีข้อเหมือนหรือแตกต่างกันตรงไหน ที่สำคัญนักเล่นเครื่องควรเล่นเครื่องเสียงรถยนต์แบบใด เพื่อเป็นการเสียเงินไปอย่างคุ้มค่า ได้มาซึ่งชุดเครื่องอันไพเราะตรงความต้องการ
อะไรคือ HI-END
การเล่นเครื่องเสียงแนวทางนี้ นั้นว่ากันด้วยเรื่องราคาเป็นหลัก ราคาของเครื่องเสียงระดับนี้มักจะสูง เป็นรุ่นหรือซีรี่ย์ระดับบน เป็นเครื่องที่ผู้ผลิตมักจะนำมาเป็นต้นแบบ ผลิตจำนวนไม่มาก เพราะใช้วัสดุและเทคโนโลยีระดับสูง ประกอบกันราคาอุปกรณ์ที่สูง มีจำนวนนักเล่นไม่กว้างเล่นกันอยู่เฉพาะกลุ่ม เครื่องเสียงระดับนี้นักเล่นสามารถมั่นใจได้ว่า จะได้คุณภาพเสียงที่ดี เพราะมากจากความตั้งใจของผู้ผลิต ที่จะสรรค์สร้างเครื่องเสียงเพื่อให้ได้คุณภาพเสียงดีที่สุด และเมื่อนำอุปกรณ์คุณภาพสูงหลายๆชิ้นมาประกอบเข้าเป็นชุดเครื่องเสียง ก็ยิ่งสร้างความมั่นใจให้กับนักเล่นว่า เสียงต้องมีคุณภาพดี เพราะใช้อุปกรณ์ราคาแพงทั้งหมดและราคาสูงทั้งหมด
ท่านผู้อ่านนักเลงรถภาคเหนือทุกท่านลองนึกดูนะครับ ฟร้อนท์ระดับ ALPINE F1 เพาเวอร์แอมป์ระดับ SINFONI CLASS A ลำโพง RAINBOW REFERENCE ราคารวม 3 อุปกรณ์นี้ก็เกือบล้านบาท อุปกรณ์ทุกชิ้นล้วนผลิตมากจากอุปกรณ์คุณภาพสูงและเทคโนโลยีขั้นสูง เพื่อตอบสนองในเรื่องคุณภาพเสียงสูงสุด หรือแม้จะไม่ใช้อุปกรณ์ราคาระดับนี้ แต่เลือกแบรนด์เครื่องเสียงที่มีจำหน่ายทั่วโลก มีชื่อเสียงยาวนานหรือเป็นที่นิยม บางครั้งนักเล่นก็เรียกว่าเครื่องเสียงแบรนด์ HI-END ได้เช่นกัน แม้อุปกรณ์เครื่องเสียงนั้นจะไม่ใช้รุ่นที่ราคาสูงสุดก็ตาม
แต่ความจริงไม่ได้เป็นเช่นนั้นทั้งหมดครับ บางครั้งแม้จะใช้อุปกรณ์ราคาแพง คุณภาพดีระดับสูงสุด ถ้าการติดตั้งไม่ได้คุณภาพและตำแน่งที่ดี รวมไปถึงใช้อุปกรณ์เสริมไม่ได้คุณภาพอีก เช่น การนำลำโพงราคาแพงมาติดตั้งโดยไม่ได้เสริมแผ่นไม้เพื่อความมั่นคงแข็งแรง หรือใช้สายสัญญาณชนิดแถมราคาคุณภาพต่ำ แม้กระทั่งสายไฟก็ใช้เส้นเล็กภายในใช้ตัวนำคุณภาพไม่ดี มีโอกาสเป็นสนิมหรือเกิดอ็อคไซด์ได้ง่าย เชื่อได้เลยว่าอุปกรณ์แพงๆระดับ HI-END นั้นก็ไม่สามารถแสดงคุณภาพที่ดีออกมาได้เลย และถ้ามีประเด็นอื่นรวมเข้าไปอีกด้วยเช่น การจูนเสียง คุณภาพเสียงอาจจะสู้ไม่ได้กับชุดและอุปกรณ์เครื่องเสียงที่ราคาถูกกว่ามาก แต่มีการติดตั้งที่ดี มีความแข็งแรง ทิศทางตำแหน่งการหันหน้าดอกลำโพงที่เหมาะสม รวมไปถึงได้รับการจูนเสียงจากผู้ที่มีประสบการณ์
เพราะฉะนั้น ถ้ารักจะเล่นเครื่องเสียงราคาแพงระดับ HI-END ต้องควบคู่กับการติดตั้งและจูนเสียงโดยผู้ชำนาญ เพื่อให้ได้คุณภาพเสียงเต็มอย่างที่ผู้ผลิตตั้งใจ อุปกรณ์เสริมที่มาร่วมใช้งานต้องมีคุณภาพดี เมื่อนั้นอุปกรณ์เครื่องเสียงระดับ HI-END จึงมีคุณภาพเสียงสมราคา
เปียโน แม้จะมีคุณภาพการผลิตที่ดีเพียงใด ก็หาได้มีเสียงที่ไพเราะ ถ้าผู้เล่นนั้น ไม่มีความสามารถเพียงพอ
อะไรคือ AUDIOPHILE
คำนี้น่าจะนำมาจากคุณภาพการบันทึกแผ่นซีดีครับ เนื่องจากไม่ได้มีบทบรรญัติไว้ชัดเจนในพจนานุกรม แผ่นซีดีที่มีการบันทึกโดยเน้นคุณภาพเป็นพิเศษ โดยเริ่มตั้งแต่การบันทึกในห้องอัด การบันทึกลงแผ่น ใช้อุปกรณ์คุณภาพดี รวมไปถึงพิถีพิถันทุกขั้นตอน เพื่อให้ได้มาซึ่งแผ่นที่ให้คุณภาพเสียงได้ใกล้เคียงกันต้นกำเนิด เหมือนผู้ฟังได้ไปนั่งฟังบทเพลงนั้นๆตอนบันทึกเลยทีเดียว คำว่า AUDIOPHILE จึงหมายถึงการเล่นเครื่องเสียงเพื่อให้ได้คุณภาพสูงสุด ในสภาวะแวดล้อมและอุปกรณ์ในชุดเครื่องเสียงจะอำนวย
ประการสำคัญที่เป็นแก่นแท้ของการเล่นแบบนี้ไม่ได้ขึ้นอยู่กับราคาของตัวเครื่องนะครับ นักเล่นมักให้ความสนใจไปกับทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง พิถีพิถันสูงสุด เริ่มตั้งแต่การคัดเลือกอุปกรณ์มาร่วมชุดใช้งาน ย้ำอีกครั้งว่าไม่ต้องราคาแพงสูงสุด แต่มักเลือกคุณภาพที่ดี ดีด้วยวัสดุการผลิต ดีด้วยคุณภาพของวงจร นักเล่นบางท่านถึงกับกำหนดชิ้นส่วนอุปกรณ์แม้เพียงขนาดเล็กภายในวงจรเลยทีเดียว เมื่อได้อุปกรณ์เข้าชุดพอใจทั้งระบบ ก็ต้องให้ความใส่ใจกับอุปกรณ์เสริม ไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นของแพง แต่เลือกใช้วัสดุคุณภาพดีสามารถเสริมข้อดี ช่วยกลบข้อด้อยของชุดเครื่องเสียงได้
เมื่ออุปกรณ์ครบหมดแล้ว ก็มาถึงการติดตั้ง นักเล่นบางท่านถึงกับติดตั้งเองหรือบางท่านก็ไปคอยควบคุมทุกขั้นตอนการติดตั้ง เรียกได้ว่าสนิทชิดเชื้อกับช่างเลยทีเดียว ใส่ใจแม้กระทั้งมุมติดตั้ง ทิศทางสาย ตำแหน่งวางเพาเวอร์แอมป์ และอื่นๆอีกมากมาย ใส่ใจพิถีพิถันครบทุกจุด เพื่อรีดคุณภาพเสียงจากชุดที่เลือกไว้ออกมาให้ได้คุณภาพสูงสุด เพื่อที่จะให้มีคุณภาพดีกว่าชุดราคาแพงที่ติดตั้งได้ไม่ดีนัก
จากนั้นก็มาถึงขั้นตอนการจูนเสียง นักเล่นแนวทางนี้จะไม่ใช้อุปกรณ์อีเล็กทรอนิกส์ประเภทการปรับแต่งเสียงช่วยแต่อย่างใด เน้นอุปกรณ์เพียงน้อยชิ้น เพื่อให้สัญญาณผ่านการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงให้น้อยที่สุด นอกจากบางท่านจะจูนเสียงด้วยตนเองแล้ว บางท่านถึงกับจูนเสียงเป็นวันๆเป็นคืนๆ เคยมีคำกล่าวติดตลกด้วยว่า จูนเสียงเพื่อเอาคุณภาพสูงสุดต้องไปจูนเสียงที่เงียบสงัดเช่น ป่าช้าเลยก็มี
ข้อสำคัญคือ นักเล่นกลุ่มนี้มักจะไม่จ่ายค่าอุปกรณ์แพงระดับสูงสุด แต่ก็ไม่ได้เลือกจ่ายในราคาต่ำสุดเช่นกัน ใช้วิธีเลือกคุณภาพตามความเหมาะสมและความเข้ากันได้ทางบุคลิกเสียงที่สามารถเติมเต็มความไพเราะซึ่งกันและกัน อะไรขาดเสียงไหนก็หาอุปกรณ์ที่เหลือมาเติมแต่งให้เต็ม เพื่อให้ได้เสียงคุ้มค่ากับเงินที่จ่ายไป
ผู้ที่เริ่มเล่นเครื่องเสียง ควรศึกษาหาข้อมูลและได้ลองฟัง อย่าลืมว่าเครื่องเสียงราคาแพงระดับสูงก็มักจะให้คุณภาพเสียงที่ดี และถ้าประกอบเข้ากับการเล่นแบบพิถีพิถันใส่ใจทุกขั้นตอน ก็จะยิ่งเพิ่มคุณค่าและคุณภาพของเสียงขึ้นไปอีก แล้วนักเล่นมือใหม่จะเล่นเครื่องเสียงแบบไหนอย่างไร
แนะนำว่า ให้ไปลองฟังเสียงดนตรีจริงๆ ที่ไม่ผ่านการขยายเสียง สักครั้ง ประเภทการแสดงสด หรือเหมาะที่สุดก็เป็นเพลงคลาสสิคจากวงออเครสต้า เมื่อนั้นท่านจะทราบความต้องการของตนเองว่า จะเล่นเครื่องเสียงแบบใดครับ