เรียนทุกท่านที่ให้ความสนใจในหัวข้อ ถามมาตอบไป เพื่อให้การตอบคำถามมีความถูกต้อง และชัดเจน ขอความกรุณาให้รายละเอียดเกี่ยวกับ แบรนด์ และรุ่น ของรถยนต์ของท่าน งบประมาณ แนวเพลงที่ท่านชอบ หรือปัญหาของเครื่องเสียงของท่านโดยละเอียด ทางทีมงานฯ ขอขอบคุณทุกท่านไว้ ณ ที่นี้
ศัพท์เครื่องเสียงที่สงสัย
- วันที่: 2008-02-13 14:58:43
- โดยคุณ: มือใหม่อยากเรียนรู้
อยากถามเกี่ยวกับศัพท์ต่างๆ ที่ปรากฎบนชุดเครื่องเสียงของผมครับ(ไว้ปรับค่าต่างๆ)ดังนี้
1.HPF/LPF คืออะไรเอาไว้ปรับอะไรครับ
2.Sub Sonic Filter มีปุ่มปรับหน่วยเป็น Hz ปรับแล้วได้ความแตกต่างตรงไหน
3.Gain ทั้งบนเพาเว่อฯขับกลางแหลม และบน Bass Box ข้อนี้ถามว่ามันขึ้นอยู่กับสัญญานที่ออกมาจากฟร้อนหรือเปล่าครับ
4.Phase 0-180 องศา ต่างกันยังไง ปรับแล้วได้ความแตกต่างตรงไหนครับ
5.DAC 1 bit แตกต่างกับ DAC 24 bit ตรงไหนครับ(ของผม Alphine มีแค่ 1 bit)
6.สัญญาณที่ออกมาจากฟร้อนเข้าเพาเว่อแอมป์ มีวิธีคิดหน่วยยังไงครับเมื่อเข้าเพาเว่อแอมป์ไปแล้ว เช่นออกจากฟร้อน=1V. พอมาเข้าเพาเว่อฯ มันจะขยายเป็นตามสเปคของเพาเว่อฯหรือไม่ แล้วสองตัวนี้เกี่ยวข้องกันตรงไหนครับ(ปรับที่ฟร้อนแล้วจำเป็นต้องปรับที่ เพาเว่อหรือเปล่า ที่ผมเข้าใจคือการปรับ Volume ใช่มั๊ยครับ)
7.สำหรับลำโพงซับ 60Hz เสียงจะลงได้ลึกกว่า 80Hz ใช่มั๊ยครับ
8.สำหรับลำโพงซับ เมื่อปรับค่า wide กับ narrow มีความหมายว่าอย่างไรครับ
9.คำว่าจุดตัดความถี่ ณ.จุดนั้นจุดนี้ มีความหมายว่าอย่างไรครับ
10.สำหรับ สเปคฟร้อนแล้ว คำว่า 105 dB / + - 1 dB มีความหมายว่าอย่างไรครับ(ผมเข้าใจว่า dB เป็นหน่วยวัดความดังของเสียงครับ ผมเข้าใจถูกหรือเปล่า)
1.เพื่อปรับส่วนความถี่ครอสไฮพาส(HPF) และความถี่คลอสโลว์พาส(LPF) ครับ
2.เพื่อปรับการตัดความถี่ลึกชายล่างที่ไม่ใช้งาน(คลื่นที่ตำกว่าความถี่ที่ตั้งไว้) ช่วยให้ได้ระดับความดัง SPL มากขึ้น ซับทำงานได้ปลอดภัย(ไม่เสียหาย)มากขึ้น
3.การปรับเกนขยายที่ชุดภาคขยาย จะปรับให้สมดุลกับกำลังสัญญาณขาออกจากแหล่งที่จ่าย กรณีต่อตรงจากฟร้อนท์ก็ให้สัมพันธ์กับแรงดันขาออกของชุดฟร้อนท์ถูกต้องแล้วครับ
4.เป็นการทิศทางเสียงที่ได้จากตัวลำโพงให้สัมพันธ์กับลำโพงตัวอื่นๆในระบบครับ
5.ถ้าในส่วนของเส้นทางการเดินของสัญญาณ(ไม่เกี่ยวกับความสามารถของการถอดรหัส) DAC 1 bit จะหมายถึงการต่อเส้นทางเดินของสัญญาณเพียงเสียงเดียว(บิทเดียว) หรือเรียกกว่าแบบอนุกรม ส่วน DAC 24 bit เป็นการต่อเส้นทางเดินของสัญญาณ 24 เส้น(บิท) หรือเรียกกว่าแบบขนาน
6.ปกติจะวัดในหน่วย True RMS หรือ Peak-to-Peak ของคลื่นบวก/ลบ(AC) ครับ เป็นหน่วยเดียวกับอินพุทขาเข้าของเพาเวอร์แอมป์อยู่แล้วครับ การปรับ volume เป็นการตั้งระดับขาออกของคลื่นทั้งหมด แต่จะมีลักษณะเป็นสัดส่วน(ล็อกการิธึม) ไม่เป็นแบบเรียงลำดับ(ลิเนียร์)เหมือนปุ่มเกนขาเข้า ดังนั้นเมื่อหมุนปุ่มวอลลุ่มแต่เพียงน้อยสัญญาณจะออกไปไม่เยอะ จนกว่าจะเกินตำแหน่ง 12 นาฬิกาไปแล้ว สัญญาณจึงจะเริ่มส่งออกไปทางขาออกเป็นจำนวนมาก การปรับเลเวล-เมทชิ่ง จึงถือการปรับวอลลุ่มไว้ที่ประมาณ 80% เพื่อให้ได้สัญญาณออกจากฟร้อนท์เต็มประสิทธิภาพ(เต็มโวลท์)ครับ
7.ถ้ากรณีหมายถึงค่า FS คำตอบคือใช่ครับ
8.กรณีนี้น่าจะหมายถึงความกว้าง/แคบของรูปคลื่นที่จุดตัดความถี่ ว่าต้องการให้คลอบคลุมความถี่ในแนวกว้างหรือแนวแคบครับ
9.หมายถึงความถี่ที่เกินกว่าตำแหน่งนั้นเสียงจะค่อยๆจางหายไป เช่น ไฮพาส คือความถี่ที่อยู่ก่อนจุดตัดความถี่จะค่อยๆจางหายไปตามค่าลำดับความลาดชัน
10.ค่าดังกล่าวน่าจะหมายถึง Dynamic Range คือความสามารถทางพลวัติเสียง ที่สามารถสร้างออกได้ถึง 105 dB คลาดเคลื่อนไป +/- 1 dB ครับ สำหรับ dB เป็นหน่วยวัดความดังของเสียง..ใช่ครับ แต่ขึ้นอยู่กับว่าวัดในแบบสเตติคหรือไดนามิค (วัดเพื่อเป็นสเปคเครื่อง หรือวัดเป็นระดับความดังที่ได้ยิน) โดยมีตัวห้อยท้ายแตกต่างกันไป อาทิ dBu, dBA, dBC สำหรับในแง่เชิงช่างเทคนิคแล้ว มักจะเขียนเป็นค่าหมายรวมคือ dB ซึ่งหากมีทักษะเชิงช่างจะเข้าใจได้ครับว่าในสเปคส่วนนั้น เกี่ยวพันธ์กับการวัดในรูปแบบใด ครับ ขอบคุณครับ
Rocket Sound