Modify ทำเพื่ออะไร? ทำอย่างไร? ทำไปทำไม!!!
- วันที่: 21/06/2010 17:48
- จำนวนคนเข้าชม: 23422
กระแสการโมดิฟายด์ในเครื่องเสียงรถยนต์บ้านเราขณะนี้กำลังเป็นที่นิยม แต่โมดิฟายด์ผู้อ่านทุกท่านคงจะทราบแล้วว่าคือการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง แต่เขาโมดิฟายด์กันไปทำไม เมื่อทำแล้วได้ผลเป็นอย่างไร ผลที่ได้ดีหรือไม่ดีขึ้นอยู่กับอะไร สมควรแล้วหรือที่จะต้องโมดิฟายด์
คำถามเหล่านี้คงค้างคาใจผู้อ่านทุกท่าน บทความในครั้งนี้ขอนำเสนอเกี่ยวกับการโมดิฟายด์ ต่อไปขออนุญาตเรียกสั้นๆว่า “โมฯ” ครับ
ทำไมต้องโมฯ เครื่องเสียงเดิมมาจากโรงงานผู้ผลิต ชิ้นส่วนอุปกรณ์ภายในที่ใช้ล้วนมีต้นทุนที่ส่งผลต่อราคาของผลิตภัณฑ์นั้นๆ เมื่อมีราคาเข้ามาเกี่ยวข้อง ผู้ผลิตแต่ละรายย่อมใช้อุปกรณ์ภายในที่มีคุณภาพแตกต่างกัน เพื่อให้เหมาะสมกับราคาของผลิตภัณฑ์ เมื่อคุณภาพของอุปกรณ์ต่างกัน คุณภาพเสียงที่ได้ก็จะแตกต่างกัน
เหตุที่ต้องโมฯอีกประการที่สำคัญคือ ไม่มีเครื่องเสียงใดในโลกที่ให้เสียงได้ตรงใจเราครบ 100 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเลือกเครื่องเสียงที่ถูกใจได้แล้ว ส่วนใหญ่มักพบว่าน่าจะให้เสียงแหลมหวานกว่านี้หน่อย ทุ้มอิ่มกว่านี้อีกนิด กลางโปร่งอีกสักหน่อย การโมฯจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะทำให้เครื่องเสียงตอบสนองให้ได้ใกล้เคียงความต้องการของนักเล่นมากที่สุด
ประการสุดท้ายที่นักเล่นมักจะโมฯคือ ฟังเครื่องเสียงชุดเดิมมานาน จะเปลี่ยนใหม่ก็เสียงเงินเสียทองมากมาย แถมเสียงดายของเก่าที่ยังใช้งานได้ดี แต่อยากให้คุณภาพเสียงที่มีอยู่ในชุดเก่ามีคุณภาพเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น หรือประมาณว่าชินชากับเสียงเดิมๆ อยากมีอะไรที่เปลี่ยนแปลง ก็ต้องโมฯละครับ
โมฯแล้วได้อะไร ถ้าจะกล่าวแบบกำปั้นทุบดินก็คือ อย่างน้อยสิ่งที่ตาเราเห็นก็คืออุปกรณ์ชิ้นส่วนมีคุณภาพดีขึ้น จากสายธรรมดากลายเป็นสายทองแดงบริสุทธิ์ หรือเปลี่ยนเป็นสายเงินแท้ๆคุณภาพสูง จากขั้วต่อที่ราคาไม่สูง กลับกลายเป็นขั้วต่อมีชื่อมีราคา นี่คือสิ่งที่มองเห็นได้ แต่สิ่งที่กล่าวไป คงจะไม่ใช่ความต้องการที่แท้จริงของนักเล่นต่อผลของการโมฯเป็นแน่
เสียงที่ได้ยินหลังจากการโมฯนั่นละครับคือคำตอบสำคัญว่า โมฯแล้วได้อะไร เชื่อว่าท่านผู้อ่านที่เคยลองโมฯหรือเปลี่ยนแปลงอุปกรณ์ด้วยตัวเองล้วนเคยตื่นเต้นกับเสียงแรกที่ได้ยิน ว่าเสียงจะเปลี่ยนไปอย่างไร ดีขึ้นขนาดไหน หวานขึ้นอิ่มขึ้นมากไหม ความเปลี่ยนแปลงจะเป็นอย่างไร ขึ้นอยู่กับโมฯอย่างไรเป็นสำคัญครับ
โมฯอย่างไร ส่วนใหญ่นักเล่นที่ลงมือทำกันเอง ศึกษาหาความรู้มาพอสมควร สิ่งแรกที่มักจะโมฯคือสายครับ เปลี่ยนสายทั้งภายในและภายนอกให้มีคุณภาพดีขึ้นจากที่โรงงานผู้ผลิตให้มา แค่นี้ก็ดีขึ้นตามคุณภาพสายเส้นใหม่ที่ใส่ลงไปแล้ว ความสุขที่ได้จากการโมฯก็เกิดขึ้นแล้วครับ ความสุขมักมาพร้อมกับกิเลสที่ว่า แล้วถ้าโมฯให้มากกว่านี้จะทำอย่างไร นักเล่นบางคนเล่นกันถึงขนาดค่าโมฯแพงกว่าค่าตัวเครื่องยังมีเลยละครับ
การโมฯที่ลงลึกไปอีกสักหน่อยคือ เปลี่ยนแปลงชิ้นส่วนอุปกรณ์ภายในกันเลยครับ ขั้นต่อมาคือการเปลี่ยนชิ้นส่วนอุปกรณ์ภายในให้มีคุณภาพดีขึ้น ตั้งแต่คาปาซิเตอร์ธรรมดา เปลี่ยนไปใช้คาปาซิเตอร์ราคาแพง ระดับที่เรียกว่าถ้าผู้ผลิตใส่อุปกรณ์เหล่านี้มาให้ ราคาเครื่องเสียงชิ้นนั้นคงแพงขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว ผมเคยเห็นนักเล่นบางคนเปลี่ยนคาปาซิเตอร์จากเดิมหลักสิบเป็นหลักพันบาทยังมี อันนี้ว่ากันแล้วแต่ความชอบ จากนั้นก็เปลี่ยนคุณภาพตัวต้านทาน ขดลวด ขั้วต่อต่างๆให้มีคุณภาพดีขึ้น จะดีขึ้นอย่างไร ขึ้นอยู่กับวัสดุและความเข้ากันได้ทางเสียงด้วยนะครับ เช่น วัสดุที่ทำจากทองส่วนใหญ่ให้เสียงทุ้มมีเนื้อเสียงที่อิ่มแน่น วัสดุที่ทำจากโรเดี่ยมส่วนใหญ่มักให้เสียงทุ้มที่กระชับ เสียงแหลมสดใส อันนี้ว่ากันคร่าวๆนะครับ ทีนี้ลองมาดูกันว่าอุปกรณ์แต่ละชิ้น ส่วนใหญ่เขาโมฯอย่างไรกันบ้าง
ฟร้อน์ อุปกรณ์ชิ้นนี้ส่วนใหญ่จะโมฯกันที่สายด้านหลังเครื่อง เพราะสายที่ให้มาจากโรงงานมีคุณภาพระดับหนึ่ง เมื่อเปลี่ยนสายใหม่ก็เลือกได้ตามใจว่าจะใส่สายที่ทำจากวัสดุอะไร เพื่อให้เกิดเสียงเป็นอย่างไร เชนสายเงินแท้ให้รายละเอียดเสียงแหลมที่ดี มีความหวาน สายทองแดงบริสุทธิ์มีเนื้อเสียงทุ้มที่เข้มข้น ต่อมาคือขั้วแจ็คแบบอาร์ซีเอ ขั้วประเภทนี้ทางผู้ผลิตมักไม่ให้ความสำคัญมากนัก ส่วนใหญ่เป็นนิเกิ้ลธรรมดา นักเล่นบางคนอาจจะเปลี่ยนใส่ขั้วอาร์ซีเอคุณภาพสูง เช่น WBT ที่ผลิตด้วยทองแดงคุณภาพสูงเคลือบด้วยทองคำ 24 เค แน่นอนครับว่าสวยงามขึ้นและทนทานขึ้น เนื่องจากอ๊อกไซค์หรือคราบสนิมในขั้วคุณภาพสูงนั้นเกิดได้ยาก แล้วคุณภาพเสียงจะเปลี่ยนไปอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับเทคนิกของผู้โมฯแต่ละสำนักเป็นสำคัญ
เพาเวอร์แอมป์ ส่วนใหญ่ก็จะเปลี่ยนคุณภาพสายภายในให้ดีขึ้น เปลี่ยนขั้วต่อกันนิดหน่อยเอาเป็นพิธี แต่สำหรับนักเล่นบางคนหรือสำนักโมฯบางเจ้า ก็บัดกรีเปลี่ยนคุณภาพอุปกรณ์ภายในกันเลยทีเดียว เปลี่ยนทั้งคาปาซิเตอร์ในภาคจ่ายไฟ ภาคกรองไฟ รวมถึงคาปาซิเตอร์สำหรับความถี่สูงในวงจร เรียกว่าอันไหนดี อันไหนเหมาะสม เปลี่ยนกันให้หมด ผมทราบมาว่านักเล่นบางคนถึงกับเปลี่ยนทรานซิสเตอร์ภาคขยายให้กับเพาเวอร์แอมป์ ยี่ห้อไหนคุณภาพดี ผลิตจากผู้ผลิตที่ชื่อเสียงไว้ใจได้ เปลี่ยนใหม่ลงไปเลยครับ เสียงเป็นอย่างไรว่ากันทีหลัง ขอให้ได้เปลี่ยน ให้ได้โมฯก็สบายหัวใจไปเกินครึ่ง
ลำโพง มาถึงอุปกรณ์ที่โมฯกันมาก โมฯกันบ่อย ที่ไหนๆก็โมฯกันแต่ลำโพง เพราะเป็นอุปกรณ์เครื่องเสียงที่เห็นเด่นชัดที่สุด ไม่ใช่โมฯแล้วเสียงเปลี่ยนดีที่สุดนะครับ ตามองเห็นชัดสุดต่างหาก การโมฯลำโพงก็เริ่มจากเปลี่ยนคุณภาพตัวคาปาซิเตอร์ภายในวงจรพาสซีฟครอสโอเวอร์ อยากให้เสียงอิ่มหวานก็อาจใช้ตัวคาปาซิเตอร์แบบน้ำมัน หรือเปลี่ยนคุณภาพขดลวดหรือคอยล์ นักเล่นบางคนเปลี่ยนไปใช้คอยล์แบนจากผู้ผลิตที่มีชื่อ เพื่อให้มั่นใจถึงคุณภาพเสียงที่เปลี่ยนไป หรือเปลี่ยนตัวต้านทานที่สามารถทนกำลังวัตต์ได้สูงกว่า เมื่อทนวัตต์สูงก็เกิดความร้อนน้อย ความเพี้ยนก็น้อยตามมา นี่กล่าวกันถึงการโมฯแบบทั่วๆไปไม่ได้เจาะลึกระดับเปลี่ยนค่าของตัวอุปกรณ์ให้เปลี่ยนไปจากเดิมนะครับ โมฯอย่างนั้นต้องมีความรู้ความเข้าใจและประสบการณ์ที่มากขึ้นไปอีกระดับ
กล่าวถึงการโมฯในคอลัมน์นี้ก็เพื่อให้ท่านผู้อ่านได้ทราบถึงหลักการ ที่มาที่ไปของการโมฯ เพื่อเป็นแนวทางให้ทราบถึงการโมฯในวงการเครื่องเสียงรถยนต์ครับผม