ข้อมูลจำเพาะของลำโพง มีความหมายอย่างไร
- วันที่: 21/02/2015 16:24
- จำนวนคนเข้าชม: 6801
“ความไวเสียง(Sensitivity)”
คือระดับความดังเป็น SPL ที่ตัวขับเสียงนั้นๆสามารถเปล่งความดังออกมาได้ ในกำลัง 1 วัตต์ และวัดในระยะห่างจากดอกลำโพง 1 เมตร ในย่านความถี่ที่ระบุเพื่อการวัด(ปกติใช้ที่ 1kHz) ความไวปกติสำหรับลำโพงรถยนต์จะอยู่ที่ประมาณ 90dB/W/m ซึ่งในลำโพงซับวูฟเฟอร์บางตัว และในลำโพงฮอร์นแบบเพียโซบางยี่ห้อ อาจอ้างถึงเอาไว้มากกว่า 100dB/W/m อย่างไรก็ตาม ต้องพึงระวังว่าผู้ผลิตอาจไม่ได้ใช้กำลังวัตต์ที่ 1 วัตต์ ในการทดสอบอย่างแท้จริง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับอิมพีแดนซ์ของซับวูฟเฟอร์ที่มีค่าอิมพีแดนซ์ต่ำมาก การใช้ค่าแรงดันไฟคงที่ในการทดสอบ(ปกติใช้ 2.82V) เพื่อให้ได้อัตราของความไวนี้ถูกต้องแม่นยำมากที่สุด
“การตอบสนองความถี่(Frequency response)”
ในลำโพงนั้นจะอ้างถึงขอบเขตของความถี่ ที่ลำโพงสามารถเปล่งออกมาได้ภายในย่านกำลังที่กำหนด โดยปกติอ้างที่ +/- 3dB
“การต้านทาน(Impedance)”
คือค่าการต้านทานของตัวขับปกติ อาทิ 4 โอห์ม(สำหรับระบบเสียงรถยนต์ทั่วไป) แม้ว่าลำโพงบางตัวอาจจะมีค่าจริงเป็น 6 โอห์มก็ตาม และในผู้ผลิตลำโพงรถยนต์บางรายอาจใช้การต้านทานที่ 3 โอห์ม หรือลำโพงรถยนต์จากประเทศญี่ปุ่นบางรุ่นอาจใช้การต้านทานที่ 6 โอห์ม
“การรองรับกำลังขับปกติ(Nominal power handling)”
คือค่าการรองรับกำลังขับแบบต่อเนื่องของตัวขับเสียง เป็นคุณลักษณ์ที่บ่งบอกให้ทราบว่าคุณสามารถใช้กำลังขับได้มากเพียงใด เพื่อใช้ขับดันตัวขับเสียงนั้นๆได้ในระยะเวลานานๆโดยไม่เกิดความเสียหายต่อการขยับตัวของกรวยลำโพง, ต่อความร้อนวอยซ์คอยล์ที่เกินขีดจำกัด หรือความเสียหายอื่นๆ
“การรองรับกำลังขับสูงสุด(Peak power handling)”
คือค่าการรองรับกำลังขับสูงสุดของตัวขับเสียง เป็นคุณลักษณ์ที่บ่งบอกให้ทราบว่าคุณสามารถใช้กำลังขับ ในการขับดันเสียงเพียงช่วงระยะเวลาสั้นๆได้มากขนาดไหน จึงจะไม่ทำให้ลำโพงเกิดความเสียหาย