Rocket Sound

อธิบายแบบนี้ก่อนนะครับว่า "คาปาซิเตอร์" อันหมายถึง Cap 1 F ขึ้นไปนะครับ มีผลโดยตรงกับเรื่องของระบบไฟ นั่นคือ 1. ส่งผลให้เสถียรภาพของแรงดันไฟนิ่ง-มั่นคง ระดับ 13.8 โวลท์ขึ้นไป(เมื่อสตาร์ทเครื่องยนต์) ลดอัตราการกระเพื่อมของแรงดันไฟตามรอบเครื่อง 2. มีความสามารถในการกักเก็บกระแสไฟและจ่ายกระแสไฟได้ใน"คาบเวลา"ที่รวดเร็ว(ต่ำกว่า 3 วินาที) ที่สำคัญสามารถจ่ายแรงดันกระแสสำหรับการ"กระชากไฟ"ของอุปกรณ์เครื่องเสียงได้กว่า 500 แอมป์ขึ้นไป(ขึ้นอยู่กับคุณภาพของ Cap) คราวนี้ก็ย้อนกลับมาตรงที่ว่า "ระบบเสียงรถยนต์" แทบทุกระดับราคา จะต้องใช้"แรงดันไฟ"เป็นองค์ประกอบสำคัญในการให้"คุณภาพเสียง" ถ้าแรงดันไฟน้อย, กระแสต่ำ ไม่พอเพียงต่อการทำงานอันสมบูรณ์ของระบบเสียงแล้วไซร้ คุณภาพเสียงที่ได้ก็จะขาดๆหายๆ หรือได้ไม่เต็มร้อย หากสามารถทำ"แรงดันไฟ"ให้ครบสมบูรณ์ตามองค์ประกอบที่ถูกต้อง ก็ย่อมมีผลโดยตรงกับ"คุณภาพเสียง" เท่าที่เคยประเมินเบื้องต้น การติดตั้งคาปาซิเตอร์กับระบบเสียงรถยนต์ ส่งผลต่อ"คุณภาพเสียง"ได้ตั้งแต่ 15% ขึ้นไป (ขึ้นอยู่กับระดับคุณภาพของอุปกรณ์ในระบบเสียงนั้นๆด้วยนะครับ) สำหรับคำถามที่ว่ามีคาปาซิเตอร์กับไม่มีเสียงต่างกันมากน้อยเพียงใดนั้น ตอบได้ว่า"คุณสามารถรับรู้ความเปลี่ยนแปลงได้เอง"เลยครับ ส่วนแนวเสียงของ Pioneer DEH-P80RS ทางศูนย์ฯอยากเรียนเชิญท่านมาเสริมประสบการณ์ในการฟังในห้องทดสอบเสียงของเรานะครับ โดยขอความกรุณานำแผ่นที่เป็นเพลงโปรด หรือเพลงทีคุ้นหูของท่าน มาเล่นกับเครื่องเล่นนี้ในห้องทดสอบเสียง ซึ่งจะทำให้สามารถเรียงลำดับความแตกต่าง และวิเคราะห์แนวเสียงได้ด้วยตัวท่านเอง ไม่ต้องเกรงใจครับ เพราะทางศูนย์ฯได้จัดทำห้องทดสอบเสียงขึ้นมา เพื่อให้ผู้บริโภคได้ใช้ประโยชน์ในการวิเคราะห์ พิจารณาแนวเสียงได้ด้วยตัวเอง เพื่อเพิ่มความมั่นใจและประสบการในการฟังเสียง อันมีผลต่อการวางระบบเสียงได้ตรงกับวัตถุประสงค์ทางเสียงได้ถูกต้องมากทีสุดด้วยครับ ขอบคุณครับ

Rocket Sound