• Rocket Sound I Call Center 0-2792-9999 I Line ID : rocketsound I Facebook : RocketSoundThailand I Instagram : Rocketsound_Thailand
 


เรียนทุกท่านที่ให้ความสนใจในหัวข้อ ถามมาตอบไป เพื่อให้การตอบคำถามมีความถูกต้อง และชัดเจน ขอความกรุณาให้รายละเอียดเกี่ยวกับ แบรนด์ และรุ่น ของรถยนต์ของท่าน งบประมาณ แนวเพลงที่ท่านชอบ หรือปัญหาของเครื่องเสียงของท่านโดยละเอียด ทางทีมงานฯ ขอขอบคุณทุกท่านไว้ ณ ที่นี้

amp class AB และ class D

  • วันที่: 2007-05-30 08:16:54
  • โดยคุณ: top_
ผมอยากทราบความแตกต่างละหว่าง amp คลาส AB และคลาส D ดังนี้นะครับ 1.amp คลาสAB ให้ความละเอียดมากกว่าคลาสDใช่มั้ยครับและมันต่างกันแค่ไหน 2. คลาส D แรงกว่าคลาสAB แต่ถ้าเราเลือกคลาส ABที่มีวัตมากๆละครับจะดีกว่าใช้คลาสDมั้ยครับ

คำถามนี้ ผมประเมินว่าน่าจะเป็นการถามใน”เงื่อนไข”การนำไปขับซับวูฟเฟอร์ใช่ไหมครับ เพราะถ้าเป็น”เงื่อนไข”ในการไปขับกลางแหลมจะต้องตอบคนละอย่างกันนะครับ ตอบแบบนี้ครับ 1.ในการทำงานโดยทั่วไป แอมป์คลาส AB จะทำงานที่คลื่นไฟฟ้าแบบ “Sine Wave” หรือลักษณะคลื่นที่ค่อยๆโค้งขึ้นไปหาจุดสูงสุดแล้วค่อยๆโค้งลงมา(ด้านบวก และด้านลบ) ส่วนแอมป์คลาส D จะทำงานที่คลื่นไฟฟ้าแบบ “Square Wave” หรือลักษณะคลื่นที่พุ่งขึ้นจุดสูงสุดแล้วดำรงอยู่จากนั้นจึงลดลงจุดศูนย์ (ด้านบวก และด้านลบ) เพียงแต่เป็นสแควร์เวฟที่เลียนคลื่นไซน์เวฟแบบหยาบๆ จึงอาจไม่เป็นสีเหลี่ยมแบบตรงๆ เป็นเหมือนสามเหลียมหยักๆ ดังนั้นถ้าตอบในเรื่องของความละเอียดทางโน้ตเสียง ซึ่งเสียงทั่วไปเป็น”ไซน์ เวฟ”นั้น คลาส AB ย่อมทำให้เหมือนจริงมากกว่า หรือตอบแบบคำถามของคุณคือ “คลาส AB ให้ความละเอียดมากกว่า”ถูกต้องครับ และแตกต่างกันในขนาดที่รับรู้ได้จากการได้ยินครับ 2.แต่ถ้าพูดกันในเรื่องของพละกำลัง คลาส D ย่อมมากกว่า ด้วยเหตุผลของการทำงานในรูปแบบคลื่น Square Wave ที่ไม่มีความผ่อนปรน และไม่ต้องเสียกำลัง(สูญเสีย)ในการแยกส่วนรายละเอียดของเสียง แอมป์ คลาส D จึงมีกำลังมากกว่า(แรงกว่า) แต่...การเลือกแอมป์ คลาส AB ที่มีกำลังวัตต์มากๆมาใช้ จะมีปัญหาสาม-สีเรื่องตามมา (ถ้าขจัดปัญหาต่างๆเหล่านี้ได้ก็จะถือว่า...”ดีกว่า” 2.1. กำลังไฟ(กระแสไฟ) สัดส่วนง่ายๆของกำลังไฟของแอมป์ AB คือ 100 วัตต์ กินไฟ(ต้องการ)สูงสุดโดยประมาณ 25 แอมป์ ดังนั้นถ้าคุณใช้แอมป์ AB ที่ 1000 วัตต์ คุณจะต้องมีกระแสจริงๆอย่างน้อย 200 แอมป์ (สำหรับแอมป์ตัวนี้) ซึ่งเมื่อมองที่ตัวปั่นไฟประจำรถ(ไดชาร์จ) ส่วนใหญ่จะทำได้แค่ที่ประมาณ 90 แอมป์ (ปั่นจนพัง!..ก็ไม่พอ) ดังนั้น แอมป์ AB จึงมักแรงสุดแค่ประมาณ 500 วัตต์ (คือต้องการไฟประมาณ 100 แอมป์) ซึ่งจะทำความดังที่ซับวูฟเฟอร์ได้ประมาณ 105 – 110 dB แน่นอน เพียงพอสำหรับการฟังแบบ”สุภาพชน” ถ้าถามในเงื่อนไขนี้คำตอบคือ “ดีกว่าครับ” 2.2. ความร้อน! แอมป์ AB ที่มีกำลังขับมากๆ ก็มักจะมีความร้อนมากตามไปด้วย หากไม่มีการติดตั้งที่ดี หรือตำแหน่งระบายความร้อนไม่ได้ ระบบแอมป์จะตัดการทำงาน ฟังได้เพลง-สองเพลง..ตัด! 2.3 เมื่อระบบต้องการไฟ(กระแส)อย่างยิ่งยวด อุปกรณ์ต่อร่วมที่ใช้ในระบบ จะต้องมีคุณภาพและรองรับการไหลของกระแสได้อย่างสะดวก ไม่สูญเสีย นับตั้งแต่แบตเตอรี่, สายไฟเมน, สายไฟกราวน์, การลงกราวน์, ความแน่นหนาในการเชื่อมต่อ และจิปาถะ ซึ่งอุปกรณ์ต่อร่วมเหล่านี้อาจมีมูลค่าพอๆกับราคาตัวเครื่องเพาเวอร์แอมป์ (คิดในเรื่องการลงทุน!) เพราะถ้าใช้แอมป์ AB แรงๆ แต่ไฟไม่พอ คำว่า”ดีกว่า”เป็นอันตกประเด็นไปครับ สรุป... ถ้าคุณสามารถแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ และมองที่ภาพรวมในเรื่อง”คุณภาพเสียง”ในส่วนของเสียงเบส รวมถึงเป็นการฟังในมาตรฐานออดิโอไฟล์ ต้องยอมรับว่า แอมป์คลาส AB จะขับเสียงเบสได้เป็นธรรมชาติกว่าแอมป์คลาส D ครับ ขอบคุณครับ

Rocket Sound